หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

ผลไม้ไทย

ผลไม้ไทย ของดีของเมืองไทย

มังคุด

 (Mangosteen)
       มังคุด  (Mangosteen) ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ราชินีแห่งผลไม้ เพราะรสชาติที่อร่อยหอมหวานและกลมกล่อม มังคุดยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายสารพัด  คนไทยสมัยโบราณรู้จักนำ มังคุด มาแปรรูปเป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรค ไม่ว่าจะเป็น เปลือกมังคุด ใช้ฝนกับน้ำปูนใส เพื่อทาแผลให้หายเร็วขึ้น และช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า หรือถ้านำไปต้ม ก็สามารถดื่มแก้อาการท้องร่วง ขณะที่เนื้อมังคุดมีกากใยช่วยเรื่องขับถ่าย และยังอุดมด้วยสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่นับไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่ น้ำกรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และ เหล็


ทุเรียน
( Durian )
      ทุเรียน( Durian )ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ ทุเรียนมีมากกว่า 30 ชนิด มีอย่างน้อย 9 ชนิดที่รับประทานได้ ทุเรียนมีสายพันธุ์ประมาณ 100 สายพันธุ์ให้ผู้บริโภคเลือกรับประทาน  ในประเทศไทยพบทุเรียนอยู่ 5 ชนิด มิใช่ว่าจะมีแต่เพียงเนื้อนุ่ม รสชาติอร่อยเพียงอย่างเดียว คุณค่าอย่างอื่นของทุเรียนก็มีด้วย ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร ไขมัน โปรตีน น้ำ เบต้าแคโรทีน วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอะซิน วิตามินซีแคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมสรรพคุณของทุเรียน มีดังนี้ 1.ช่วยฆ่าเชื้อ จากกำมะถันในเนื้อเป็น เสมือนยาปฏิชีวนะอ่อน ๆ 2.ช่วย เผาผลาญ จากความร้อนของกำมะถัน และน้ำตาลในเนื้อ 3.ช่วยระบาย จากกากที่เป็นเส้นใยยุ่บยั่บในเนื้


กล้วย Banana )
     กล้วย Banana )เป็นไม้ผลเขตร้อน ผลสุกนอกจากจะใช้รับประทานเป็นผลไม้แล้ว ยังสามารถนำมาปรุงอาหารคาวหวาน และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ อาหารแปรรูปชนิดต่างๆ ได้อีกหลายชนิด ใบตองสดสามารถนำไปใช้ห่อของ ทำงานประดิษฐ์ ศิลปะต่างๆ ใบตองแห้งใช้ทำกระทงใส่อาหาร และใช้ห่อผลไม้ ก้านใบและกาบกล้วยแห้งใช้ทำเชือก หัวปลีหรือดอกกล้วยน้ำว้า ยังใช้รับประทานแทนผักได้ดีอีกด้วย ประโยชน์ต่อสุขภาพ กล้วยทุกชนิดดีต่อสุขภาพ แต่กล้วยไข่ดีเป็นพิเศษในเรื่องของสาร ต้านอนุมูลอิสระที่เรารู้จักดี คือ เบต้าแคโรทีน โดยธรรมชาติเมื่อเราอายุมากขึ้นหรือเกิน 22 ปีไปแล้ว ความเจริญเติบโตของร่างกายจะเริ่มหยุดชะงัก ความเสื่อมในส่วนต่างๆ ของร่างกายก็เริ่มมาเยือน ช่วงนี้เอง มี สิ่งที่สำคัญเกิดขึ้นในร่างกายเราซึ่งก็คือ เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์ก็จะผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้น และส่วนที่สองคือ ความสามารถในการซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกายจะลดลงเรื่อยๆ พร้อมกันนั้นความสามารถในการจำกัดอนุมูลอิสระ ก็ลดลง ในกล้วยไข่ ขีด มีสารเบต้าแคโรทีนถึง 492 มิลลิกรั

ส้ม
(Orange)

      ส้ม(Orange) เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็กหลายชนิด เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ สกุล Citrus วงศ์ Rutaceae มีด้วยกันนับร้อยชนิด เติบโตกระจายอยู่ทั่วโลก โดยมากจะมีน้ำมันหอมระเหยในใบ ดอก และผล และมีกลิ่นฉุน หากนำใบขึ้นส่องกับแสงแดด จะเห็นจุดเล็กๆ เต็มไปหมด ซึ่งจุดเหล่านั้นก็คือแหล่งน้ำมันนั่นเอง ส้มหลายชนิดรับประทานได้ ผลมีรสเปรี้ยวหรือหวาน มักจะมีแคลเซียม โปแทสเซียม วิตามินเอ และวิตามินซี มากเป็นพิเศษ

ฝรั่ง
( Gauva)

    ฝรั่ง( Gauva)เป็นผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน โดยเฉพาะ วิตามินซี และวิตามินเอ  ซึ่งมีมาก กว่ามะนาว ถึง 4 เท่าเลยล่ะ จึงทำให้ฝรั่ง มีคุณค่าทางอาหารที่มาก ฝรั่งช่วยในการสร้าง ความต้านทานโรคหวัดได้ เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้ว ยังมีการแนะนำให้ รับประทานฝรั่ง เพื่อช่วยในการลดความอ้วน เพราะว่าใน ฝรั่งเป็นผล ไม้ที่มีความกรอบ ทำให้เคี้ยวเพลิน และไม่เป็นการ เพิ่มน้ำหนักให้กับเราด้วย ส่วนคุณค่าทางอาหาร จะประกอบด้วย วิตามินเอ วิตามินซี  B1 B2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และนอกจากนี้ ฝรั่งยังมีสาร จำพวกเพคติน และแทนนิน ที่มีอยู่ในฝรั่ง เป็น จำนวนมากด้วย แล้ว ยังมีประโยชน์เป็นอย่างมากเลย

มะละกอ
(Papaya)
    มะละกอ(Papaya) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : มะละกอเป็นพรรณไม้เนื้ออ่อน สูงได้ถึง 8 เมตร ไม่แตกกิ่งก้านสาขา ลำต้นตรง ใบ เป็นแฉก มีรอยเว้าเล็กๆ คล้ายขนนก ดอก เป็นช่อ ดอกตัวผุ๋มีสีเหลืองออกสีเขียวอ่อน ดอกตัวเมียไม่มีก้านดอก ผล มีลักษณะกลมยาวรี ผลอ่อนภายนอกมีสีเขียวเนื้อในสีขาว เมื่อสุกงอมได้ที่จะมีเหลืองส้ม เนื้อหนา นุ่ม รสฉ่ำหวาน เมล็ดรูปไข่สีน้ำตาลดำ ผิว ขรุขระอ่อนค่อนข้างมาก
สรรพคุณทางยา : มะละกอเป็นสมุนไพรที่ดี อีกขนาดหนึ่ง มะละกอนำผลดิบและผลสุกมาต้มกินเป็นยา ขับน้ำดี น้ำเหลือง บำรุงนม ขับพยาธิ รักษาโรคริดสีดวงทวาร ผลสุกเป็นยาแก้ท้องผูก ถ่ายคล่อง ไม่อึดอัด เป็นยาระบายได้ดี


เงาะ
( Rambutan )


     เงาะ( Rambutan )เป็นผลไม่อีกชนิดที่มีขายกันอยู่ทั่วไป เป็นผลไม้รสหวานและ อมเปรี้ยวรับประทานเงาะสดสามารถแก้อาการท้องร่วงชนิดรุนแรง ได้ผลดี นอกจากนี้ผลเงาะนำมาต้ม นำน้ำที่ได้มาเป็นยาแก้อักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รักษาอาการอักเสบในช่องปาก และโรคบิดท้องร่วง มีข้อควรระวัง คือเม็ดในของเงาะมีพิษแม้ว่าจะเอาไปคั่วจนสุกแล้ว แต่ถ้ารับประทานมากเกินไปจะมีอาการปวดท้อง เวียนศรีษะ มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ดังนั้นไม่ควรจะรับประทานเม็ด


สับปะรด 
( Pineapple )
สับปะรด ( Pineapple )เป็นพืชล้มลุก อายุหลายปี สูง 90-100 ซม. มีลำต้นใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับซ้อนกันถี่มาก รอบต้นกว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ ออกจากกลางต้น มีดอกย่อยจำนวนมาก ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีตารอบผล มีใบเป็นกระจุกที่ปลายผล
ประโยชน์ต่อสุขภาพ รักษาแผลเป็นหนองได้ โดยนำผลสดๆมาคั้นเอาแต่น้ำ ชโลมแผล เอนไซม์จะช่วยย่อยกัดเนื้อเยื่อ และหนองให้หลุด ยังใช้แก้ท้องผูกได้อีกด้วย โดยนำผลสดมาคั้นเอาน้ำ 1 แก้ว อาจผสมกับน้ำสุก 1 แก้ว เติมเกลือเล็กน้อย ดื่มตอนท้องว่าง หรืออาจจะใช้เหง้าสดๆ ประมาณ 200 กรัม หรือแห้ง 100 กรัม ต้มน้ำ 2 แก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้งก่อนอาหาร ครั้งละ 1 ถ้วยชา นอกจากนี้สับประรดยังสามารถแก้ปัสสาวะไม่ออก และช่วยย่อยอาหารได้ดีอีกด้ว


ที่มา